เริ่มการเคลื่อนย้ายที่จำเป็น Initiate Movement
เริ่มการเคลื่อนย้ายที่จำเป็น
การปรับขั้นตอนระเบียบการนำหน่วยของกองทัพบกเพื่อใช้ในผู้ช่วยเหลือเบืองต้นพลเรือน
ผมกำลังทบทวนขั้นตอนระเบียบการนำหน่วย (TLP) ซึ่งผมได้เรียนรู้สมัยอยู่ในกองทัพ
และดูว่า TLP สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อใช้สำหรับผู้นำหน่วยกู้ชีพในชุมชนเพื่อการตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างไร
ก่อนหน้านี้ผมดู:
เราจะดำเนินการต่อด้วยขั้นตอนที่ 4 เริ่มการเคลื่อนย้ายที่จำเป็นในบทความนี้โดยการเรียนรู้ความรับผิดชอบและการกำหนดความรับผิดชอบโดยการถามคำถาม
ในกองทัพ คำว่า "การมีภารกิจ" ควรส่งผลให้ทหารเริ่มเคลื่อนไหวเพื่อจัดการกับงานและความรับผิดชอบโดยไม่รู้รายละเอียดที่แน่นอนของภารกิจ พวกเขาเพียงแค่ต้องรู้ความรับผิดชอบพื้นฐานของพวกเขา ผู้นำของพวกเขาสามารถบอกรายละเอียดของภารกิจหลังจากที่พวกเขามีเวลาในการวางแผน
บทที่ 2 ของคู่มือทหารจู่โจมครอบคลุมขั้นตอนระเบียบการนำหน่วย อย่างไรก็ตามเพื่อถกเถียงถึงขั้นตอนที่ 4 การเริ่มการเคลื่อนย้ายที่จำเป็น เราควรเน้นที่บทที่ 1 คือ ความเป็นผู้นำซึ่งกำหนดความรับผิดชอบหรืองานที่ได้รับมอบหมายให้กับตำแหน่งต่างๆ ในหน่วยจู่โจมของกองทัพบก จากตำแหน่งงาน 8 ตำแหน่งที่กล่าวถึงในบทความเป็นผู้นำของคู่มือทหารจู่โจม ตำแหน่งงาน 3 ตำแหน่งนี้ ไม่ใช่ตำแหน่งความเป็นผู้นำที่ชัดเจน แต่คู่มือจะครอบคลุมความรับผิดชอบ/งานที่แต่ละตำแหน่งต้องทำให้เสร็จในระหว่างภารกิจ ตัวอย่างเช่น งานที่ระบุไว้สำหรับ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่เสนารักษ์: (ย่อมาเพื่อบทความ)
ช่วยรองผู้บังคับหมวดกำกับทีมครอก
ตรวจสอบสุขอนามัยของหมวด
ปฏิบัติ คัดแยก และช่วยเหลือในการอพยพผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต
ตรวจสุขภาพและสภาพร่างกายของสมาชิกหมวด
ขอเวชภัณฑ์
ให้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคแก่ทหารกู้ชีพในสนามรบ (เทียบเท่าทหารกับ EMR หรือหน่วยกู้ภัยฉุกเฉิน)
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารายงานผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตนั้นถูกต้อง
ดำเนินงานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับหมวดหรือรองผู้บังคับหมวด
จากลำดับขั้นนี้ เราจะเห็นได้ว่า โดยไม่ต้องทราบรายละเอียดที่แน่นอนของภารกิจนั้น เจ้าหน้าที่เสนารักษ์สามารถทำงานหลายอย่างได้แล้ว ดังนั้นการเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่เสนารักษ์จึงเริ่มต้นที่คำว่า "เรามีภารกิจ" อะไรเป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวของหน่วยกู้ชีพและหน่วยกู้ชีพมีงานหรือความรับผิดชอบอะไรบ้าง?
ในกรณีส่วนใหญ่เมื่อหน่วยกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุฉุกเฉิน และได้ยินเสียงเบรกจอดรถ แสดงว่าหน่วยกู้ชีพทั้งหมดในรถสามารถออกจากรถและเริ่มงานได้อย่างปลอดภัย หรือเราจะพูดว่าเริ่มการเคลื่อนย้ายที่จำเป็น หัวหน้าทีมสามารถกำหนดแผนทั้งหมดได้ในขณะที่หน่วยกู้ชีพอื่น ๆ จัดการกับความรับผิดชอบขั้นพื้นฐาน เพื่อความปลอดภัย ควรคาดเข็มขัดนิรภัยระหว่างทางไปยังเหตุการณ์ฉุกเฉิน และเสียงเบรกควรส่งสัญญาณให้คุณปลดเข็มขัดนิรภัย หากคุณไม่คาดเข็มขัดนิรภัยตามปกติ วันนี้เป็นวันที่ดีที่จะเริ่มคาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อคุณออกจากรถ ให้มองหาอันตราย เพราะคุณคงไม่อยากก้าวเข้าไปในเส้นทางของรถบรรทุกหรือเหยียบเข้าไปในกองมูลสุนัข สำหรับเหตุฉุกเฉินส่วนใหญ่หน่วยกู้ชีพควรออกจากรถเพื่อเริ่มงาน/การเคลื่อนไหว แต่มีข้อยกเว้นอยู่เสมอ เช่น เหตุการณ์วัตถุอันตราย (HAZMAT) เมื่อคุณย้ายไปทำงาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสมาชิกคนอื่นๆ ในทีมของคุณรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ความรับผิดชอบจะหลีกเลี่ยงไม่ให้สมาชิกในทีมสูญหาย ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
งานและความรับผิดชอบของคุณองค์กรผู้ช่วยเหลือเบื้องต้นต่างๆ มอบหมายความรับผิดชอบหรืองานให้กับตำแหน่งที่แตกต่างกัน คุณจำเป็นต้องรู้บทบาทและความรับผิดชอบของคุณ ทำงานเพื่อรู้ว่างานใดที่คุณรับผิดชอบในองค์กรของคุณ ในช่วงเริ่มต้นของอาชีพการงาน นี่หมายถึงการถามคำถามมากมายก่อนเกิดเหตุฉุกเฉิน จะทำอย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ กับผู้ป่วยทางการแพทย์ ไฟไหม้บ้าน สารเคมีรั่วไหล งูในบ้าน หรือเด็กหลงทาง หรือเหตุการณ์ฉุกเฉินทั่วไปที่อาจเกิดกับเพื่อนบ้านของคุณ แม้ว่าการถามคำถามเป็นสิ่งสำคัญ แต่การสร้างความสัมพันธ์กับคนในทีมของคุณก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ดังนั้นโปรดเคารพผู้อื่นเมื่อถามคำถาม
งานและความรับผิดชอบของผู้อื่น
หากคุณเป็นหัวหน้าทีมก็มักจะถามคำถามเช่นกัน ผมเชื่อมั่นในการให้คำปรึกษาส่วนบุคคล โดยมีการสนทนาส่วนตัวกับสมาชิกในทีมแต่ละคน หากต้องการทราบจุดแข็งและจุดอ่อนของทีม คุณต้องถามสมาชิกในทีมว่าพวกเขาต้องการอะไร เก่งอะไร ทำอะไรไม่เก่ง ปัญหาทางกายภาพที่พวกเขามี วิธีให้รางวัลที่พวกเขาชอบ คุณจะต้องหาวิธีพูดคุยกับสมาชิกในทีมแต่ละคนแบบตัวต่อตัว เมื่อได้เรียนรู้จุดแข็งและจุดอ่อนของสมาชิกในทีมแล้ว คุณจะสามารถแจ้งให้สมาชิกในทีมทราบถึงงาน/ความรับผิดชอบของตนได้ดีที่สุด
การมอบหมายงานและความรับผิดชอบให้กับสมาชิกในทีมแต่ละคนและไม่คาดหวังมากเกินไปจากพวกเขานั้นเป็นความสมดุล เช่นเดียวกับการหาจุดสมดุลในส่วนอื่น ๆ ของชีวิต คุณต้องค้นหาความสมดุลระหว่างการช่วยเหลือผู้ที่อยู่ภายใต้คุณให้รู้จักหน้าที่รับผิดชอบ และเตรียมพวกเขาให้พร้อมสำหรับความล้มเหลว คุณต้องการให้ทีมของคุณดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นพยายามให้สิ่งที่พวกเขาสามารถจัดการได้และปล่อยให้พวกเขาเก่งขึ้น ตัวอย่างความรับผิดชอบหรืองานที่คาดหวังได้จากหน่วยกู้ชีพเมื่อเกิดการชนกันของยานพาหนะ ได้แก่:
วางแผงกั้นจราจรหรือกรวยจราจรปกป้องเหตุการณ์จากการจราจร
หยิบกระเป๋าพยาบาลฉุกเฉินสำหรับผู้บาดเจ็บที่เป็นไปได้
ตรวจสอบการชนกันของยานพาหนะเพื่อหาผู้บาดเจ็บภายนอกยานพาหนะ
หยิบคลิปบอร์ดหรือแท็บเล็ต และวิทยุ
แนะนำตัวเองกับผู้คนในที่เกิดเหตุเพื่อดูว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บ้าง
หากมีอาสาสมัครกู้ชีพสามคนในรถของคุณ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอาสาสมัครกู้ชีพแต่ละคนกระโดดออกจากรถทันทีที่ทำงานหนึ่ง หรือสองงานตามรายการด้านบนนี้ ใครก็ตามที่เป็นหัวหน้าทีมสามารถประเมินสถานการณ์ต่อได้โดยไม่ต้องสั่งหน่วยกู้ชีพให้ทำงานที่ทราบ นี่คือจุดที่ทั้งทีมเคลื่อนไปสู่งานที่แตกต่างกันในฐานะทีม เช่นเดียวกับทีมฟุตบอลที่ย้ายไปประจำตำแหน่งที่ต่างกันในสนามฟุตบอล เมื่อได้ยินเสียงเบรกจอดรถ หน่วยกู้ชีพทุกคนควรมุ่งสู่ภารกิจแรกของพวกเขาเป็นทีมเดียวกัน…คือ ทีมกู้ภัย
ตำแหน่งของคุณในทีมคืออะไร? ตำแหน่งของคุณรับผิดชอบอะไร? คุณควรเคลื่อนไหวอย่างไรเมื่อได้ยินเสียงเบรกจอดรถ? คุณพูดคุยและให้คำปรึกษาผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาคุณอย่างไร? เพื่อให้พวกเขารู้ว่างานและความรับผิดชอบของพวกเขาคืออะไร?
เมื่อจอดรถ หน่วยกู้ชีพก็ควรประเมินสถานการณ์ด้วย ซึ่งจะกล่าวถึงในบทความถัดไป ขั้นตอนที่ 5 ลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ
ขอบคุณ ส.ท. ณัติฐกร ปันเชื้อ และ ส.ต. สุขสวัสดิ์ ทิพวัน และสมาคมกู้ภัยพระธาตุผาแดง สำหรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับภาพถ่าย
ผลงานที่อ้างถึง
Headquarters Department of the US Army. (26 April 2017). Ranger Handbook TC 3-21.76. Washington D.C.
Initiate Movement
Adapting the Army’s Troop Leading Procedure for Use in the Civilian Rescue Services
I am reviewing Troop Leading Procedure (TLP) from my time in the Army, and looking at how TLP can be adapted to lead emergency responders in civilian communities responding to emergency incidents. Previously I looked at:
We will continue with Step 4, Initiate Movement, in this article by learning responsibilities and assigning responsibilities by asking questions.
In the military the words “there is a mission” should put soldiers in motion. Soldiers can start moving to handle tasks and responsibilities without knowing the exact details of the mission. They just need to know their basic responsibilities. Their leaders can tell the details of the mission after they have had time to plan.
Chapter 2 of the Ranger Handbook covers Troop Leading Procedure. However, to discuss Step 4 Initiate Movement, we should focus on Chapter 1, the Leadership chapter, where it defines responsibilities or tasks assigned to different positions in the Army Rangers. Of the 8 job positions discussed in this leadership chapter of the Ranger Handbook, 3 of these positions are not obvious leadership positions, but the handbook covers the responsibilities/tasks that each of these positions must complete during a mission. For example, the tasks listed for the medic position: (abbreviated for the sake of the article)
Assists platoon sergeant directing litter teams
Monitor the hygiene of the platoon
Treat, triage, and assist in evacuating casualties
Checks the health and physical condition of platoon members
Requests medical supplies
Provides technical expertise to combat lifesavers (military equivalent to EMR or Emergency Medical Responder)
Ensures casualty reports are correct
Carries out other tasks assigned by the platoon leader or platoon sergeant
From this list we can see that without knowing the exact details of a mission, the medic can already be doing several tasks. Thus, the medic’s movement gets initiated at the very words “we have a mission”. What initiates emergency responders movement, and what tasks or responsibilities do emergency responders have?
In most instances when the emergency responders arrive at the scene of an emergency, the sound of the parking braking being pulled indicates to all emergency responders in the vehicle it is safe to exit the vehicle and start tasks, or shall we say initiate movement. The team leader can formulate a complete plan while other emergency responders handle basic responsibilities. On a safety note, seat belts should be worn enroute to an emergency and the sound of the brake should signal you to unbuckle your seat belt. If you do not wear your seat belt normally, today is a good day to start wearing it. As you exit your vehicle look for hazards. You would not want to step into the path of a truck or step into a pile of dog poop. For most incidents emergency responders should be exiting the vehicle to start their tasks/movement, but there are always exceptions such as hazardous materials (HAZMAT) incidents. As you move toward tasks make sure that the other members of your team know what you are doing. Accountability avoids team members getting lost, injured, or killed.
Your Tasks and Responsibilities
Different emergency organizations assign responsibilities or tasks to positions differently. Whatever the case, you need to know your role and responsibilities. Work to know what tasks you are responsible for in your organization. Early in your career this means asking a lot of questions before an emergency happens. What are you to do at a vehicle accident, or with a medical patient, or at a house fire, or a chemical leak, or a snake in the house, or a lost child, or a… imagine what ever emergency might commonly happen in your neighborhood. While it is important to ask questions it is also important to build relationships with those in your team. So please be respectful of others when asking questions.
Tasks and Responsibilities of Others
If you are the team leader, it is often asking questions as well. I am a firm believer in personnel counselings, having private conversations with each team member. To know your team’s strengths and weaknesses you need to ask your team members what they want, what they are good at, what they are not good at, what physical issues they have, what method of reward they like. You will have to find a way to talk with each of your team members one on one. Having learned your team members strengths and weaknesses you can best inform each team member of their tasks/responsibilities.
Assigning tasks and responsibilities to individual team members and not expecting too much from them is a balance. Just like finding balance in other parts of life, you need to find balance between helping those under you know their responsibilities and setting them up for failure. You want your team to be the best that they can be, so try to give them what they can handle and let them excel at it. Some examples of responsibilities or tasks that could be expected of emergency responders at a vehicle collision could be:
Place barriers or road cones protecting the incident from traffic
Grab medical bag for possible trauma patients
Check around a vehicle collision for any victims outside of the vehicles
Grab the clip board or tablet and a radio
Introduce yourself to people at the scene to determine what they know about the incident
If there are three emergency responders in your vehicle what if each emergency responder jumped out of the vehicle immediately did one or two of the tasks listed above? Whoever the team leader is could continue with a scene size-up without needing to direct emergency responders to do known tasks. This is where the entire team moves toward different tasks as a team the same as a football team simultaneously moves to different tasks on a football field. When the vehicle parking brake sets emergency responders should be moving toward their initial tasks as a team… a rescue team.
What is your position on your team? What is your position responsible for? What should be your movements be when the parking brake is set? How do you talk with and counsel those under you to let them know what their tasks and responsibilities are?
As the parking brake is set, emergency responders should also be doing a scene size-up which will be covered in the next article, Step 5 Conduct Reconnaissance.
